นักศึกษาวิชาทหาร จะเข้าช่วยสามีภรรยาทะเลาะกันแต่โดนสามีโชว์ปืนขู่

         เมื่อวันที่ 3 เดือนพฤศจิกายนปีพศ2563     เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนางรองจังหวัดบุรีรัมย์ได้รับแจ้งเหตุจากเด็กนักเรียนชั้นป 5 ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังเรียนวิชาทหาร  หรือ เรียน รด. ได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสกัดจับชายคนหนึ่งเนื่องจากว่ามีการพบอาวุธปืนออกมายังเขตชุมชน

        โดยเด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวนั้น  มีอยู่ด้วยกัน 6 คน  ซึ่งนักศึกษาทั้ง 6 คนนั้นกำลังจะเดินข้ามถนนไปเรียน  รด. ที่โรงเรียนฝั่งตรงข้ามพอดีปรากฏว่าขณะที่ข้ามถนนอยู่นั้นได้เห็นชายหญิงคู่หนึ่งทะเลาะกันอยู่ริมถนนโดยฝ่ายชายได้กระชากและตบตีฝ่ายหญิงจนสังเกตไม่เห็นว่ามีเลือดไหลออกมาด้วยอีกทั้งตรงบริเวณที่ชายหญิงทั้งคู่ทะเลาะกันนั้นมีเด็กอายุประมาณ 3-4 ขวบร้องไห้อยู่ด้วยซึ่งสภาพของเด็กนั้นเป็นสภาพที่พ่อกับแม่ต่างก็แย่งกันอุ้ม

         เด็กนักเรียนทั้ง 6 คน ฉันต้องการที่จะไปช่วยผู้หญิงที่ถูกสามีของตนเองตบตีเนื่องจากว่าเห็นว่ามีการกระทำการรุนแรงและยังมีเลือดออกด้วยจึงต้องการจะเข้าไปช่วยเหลือแต่หลังจากที่ฝ่ายชายหันมาเห็นเด็กนักเรียนทั้ง 6 คนก็ได้มีการโชว์ปืนที่พกติดตัวมาด้วยทำให้เด็กๆไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็สั่งให้ผู้หญิงและเด็กขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์หลังจากนั้นก็ขี่รถออกไปโดยมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมือง

               เด็กนักเรียนทั้ง 6 คนจึงได้มีการโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประสานงานในการสกัดจับชายคนดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่าชายคนดังกล่าวนั้นมีอารมณ์รุนแรงและได้มีการพกอาวุธปืนเข้ามาในพื้นที่สาธารณะเกรงว่าจะไปก่อเหตุวุ่นวายทำให้ประชาชนคนอื่นได้รับบาดเจ็บได้ 

             จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นจากการที่สามีภรรยาทะเลาะกัน  เป็นการใช้ความรุนแรงในครอบครัวซึ่งเด็กนักศึกษาวิชาทหารทั้ง 6 คนได้มาเห็นเหตุการณ์จึงอยากจะเข้าไปช่วยเหลือแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะฝ่ายชายนั้นมีอาวุธปืนตัวเองว่าตนเองจะได้รับอันตราย  ซึ่งเด็กๆก็ทำได้ดีในการที่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่ว่ามีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการจัดการแทน เพราะถ้าหากเด็กตั้งของคนตัดสินใจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วเกิดโดนฝ่ายชายนั้นใช้ปืนยิงก็จะทำให้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นซึ่งอาจจะทำให้มีคนเสียชีวิตได้  ดังนั้นการที่เด็กๆตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุการณ์จึงเป็นการดีที่สุด

           แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการรายงานข่าวเข้ามาว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจากชายคนดังกล่าวได้หรือไม่

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี

คุณป้าโกงเงินทอนออกอาละวาดอีกแล้ว

        มีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งได้มีการโพสต์ภาพเป็นคลิปวีดีโอของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งใส่ชุดสีเหลืองหมวกสีเหลืองไปซื้อของที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแถวถนนศรีนครินทร์   โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้มีการโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 24 เดือนตุลาคมปีพ. ศ. 2563  เหตุการณ์ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณป้าท่านหนึ่งไปซื้อของหลังจากนั้นก็ให้แบงค์ 1,000 บาท

กับทางพนักงานไปเมื่อพนักงานได้รับเงินแล้วจึงได้มีการทอนเงินจำนวน 900 กว่าบาทให้แต่เมื่อได้รับเงินทอนมาแล้วภายในภาพจะเห็นว่าคุณป้าเสื้อเหลืองได้นำแบงค์ 500 บาทซุกซ่อนไว้ในกระเป๋า

                  หลังจากนั้นก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าได้รับเงินทอนไม่ครบยังขาดอีก 500 ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าได้มีการถอนให้ครบเรียบร้อยแล้วแต่คุณป้าเสื้อเหลืองก็ยังยืนยันว่าเธอได้รับเงินทอนไม่ครบจนในที่สุดพนักงานคนดังกล่าวก็มีการนำเงิน 500 บาทให้กับคุณป้าเสื้อเหลืองใหม่อีกครั้งหนึ่งเธอจึงได้เดินออกจากร้านไปหลังจากนั้นพนักงานจึงได้มาเปิดกล้องวงจรปิดดูภายหลังจึงพบว่าในครั้งแรกที่ถอนเงินไปนั้นได้ทอนเงินครบเรียบร้อยแล้วแต่คุณป้าเสื้อเหลืองได้นำเงินไปซุกซ่อนและมาขอรับเงินเพิ่มเธอจึงได้นำคลิปภาพดังกล่าวนี้ออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์เพื่อที่จะได้เตือนภัยร้านค้าให้ระมัดระวังคุณป้ามหาภัยคนดังกล่าว

     หลังจากที่คนในโลกออนไลน์ได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวผ่านก็เอามาพูดถึงเรื่องนี้กันเป็นอย่างมากโดยมองว่าคุณป้าที่ใส่ชุดสีเหลืองและหมวกเหลืองนั้นเคยก่อคดีมาแล้วและเคยเป็นข่าวออกสื่อดังมาแล้วหลายช่องซึ่งคดีครั้งสุดท้ายที่คุณป้าเคยก่อเหตุโกงเงินทอนนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีพ. ศ. 2563 นี่เองโดยในครั้งนั้นคุณป้าคนเดิมนี้ก็ใส่ชุดสีเหลืองน้ำมูกสีเหลืองในการก่อเหตุเช่นเดียวกัน

    หลายคนในโลกออนไลน์จึงได้ออกมาเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันสืบหาตัวคุณป้าคนดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เธอนั้นมาก่อเหตุกับร้านค้าและอื่นๆอีก   เพราะจะเห็นได้ว่าหลังจากที่เธอตอบเหตุจนเป็นข่าวโด่งดังแล้วเธอก็เงียบไปสักพักหนึ่งและเมื่อข่าวของเธอซาลงมาก่อเหตุอีกโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้มีการเร่งติดตามหาตัวคุณป้าคนดังกล่าวมาดำเนินคดีแต่อย่างใดทำให้เธอนั้นไม่ได้เกรงกลัวกฎหมายจึงสามารถกลับมาก่อเหตุซ้ำซ้อนได้อีกนั่นเอง

           อย่างไรก็ตามสำหรับข่าวนี้ร้านค้าต่างๆควรจะต้องมีการระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องของการถอนเงินเพราะช่วงนี้หลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเงินดังนั้นจึงมักมีโจรขโมยชุกชุมและแก๊งมิจฉาชีพออกอาละวาดซึ่งการออกอาละวาดของแก๊งมิจฉาชีพนั้นก็จะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปซึ่งครั้งนี้ก็ใช้เป็นวิธีการ โกงเงินทอน  ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่ระมัดระวังในช่วงที่มีการถอนเงินก็อาจจะถูก  โกงเงินในลักษณะนี้ได้อีกนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอยได้ที่ไหน

ลูกค้าแชร์ไปกินสุกี้ร้านดังแล้วเจอแมลงสาบในน้ำจิ้ม

        มีเรื่องราวจากผู้ที่ไปรับประทานอาหารเป็นร้านสุกี้ชื่อดังร้านหนึ่งแถวบริเวณถนนกาญจนาภิเษกซึ่งมีการระบุว่าไม่ใช่ร้านสุกี้ MK อย่างแน่นอนโดยทางผู้ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับร้านอาหารแถวถนนกาญจนาภิเษกนั้นได้มีการแชร์ข้อมูลของเขาผ่านทาง facebook โดยหวังว่าเรื่องราวของเขานั้นจะถึงหูผู้บริหารและยังเป็นอุทาหรณ์ให้กับใครหลายๆคน

ในการที่จะเลือกสรรร้านที่จะเข้าไปกินด้วยเขาระบุว่าเขาและครอบครัวนั้นได้ไปกินอาหารสุกี้ที่ร้านอาหารดังกล่าวซึ่งเมื่อกินไปได้ประมาณ 1 กลับพบว่าในน้ำจิ้มสุกี้ของเขานั้นมีแมลงสาบใส่อยู่ในถ้วยสุกี้ซึ่งเป็นแมลงสาบที่ยังมีร่างกายครบทั้งแขนและขาทำให้เขาที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยนั้นต้องหยุดชะงักและรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาทันทีเขาได้มีการเรียกทางพนักงานให้มาพูดคุย

ถึงเรื่องดังกล่าวและพบว่าพนักงานและดูแลด้วยการไม่ได้เก็บค่าอาหารในครั้งนั้นแต่อย่างไรก็ตามที่เขาเอามาโพสต์เรื่องราวนี้ก็เพราะว่าเขาต้องการถามหาความรับผิดชอบจากทางร้านสุกี้ดังกล่าวเพราะร้านนั้นไม่สะอาดหากลูกค้าคนอื่นไปกินแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือแม้แต่ตัวกลุ่มครอบครัวของเขาเองที่ไปกินอาหารในครั้งนี้เกิดมีใครมีอาหารเป็นพิษท้องเสียหรือได้รับอันตรายทางร้านอาหารจะรับผิดชอบอย่างไร

โดยทางผู้โพสต์เองต้องการที่จะทำให้ทางผู้บริหารนั้นออกมาแก้ไขถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยหวังว่าทางร้านจะมีการปรับคนความสะอาดของร้านให้มากขึ้นกว่านี้อย่างไรก็ตามเมื่อคราวนี้ได้มีการเผยแพร่ออกไปมีผู้คนแชร์กันเป็นจำนวนมากทำให้เจ้าของร้านสุกี้ดังกล่าวได้ออกมาขอโทษลูกค้าผ่านทางสื่อและทางเพจ Facebook

ของทางร้านโดยตรงโดยมีการระบุด้วยว่าสุกี้ที่มีปัญหานั้นเป็นร้านสุกี้ตี๋น้อยซึ่งจากการตรวจสอบของทางผู้บริหารร้านเบื้องต้นพบว่าสาขาดังกล่าวนั้นน่าจะมีการทะเลาะกันเองภายในระหว่างผู้จัดการร้านกับทางพนักงานเพราะจากประวัติที่มีการเช็คไฟล์เบื้องต้นพบว่าผู้จัดการร้านและพนักงานภายในร้านนั้นเคยมีปัญหากันถึงขนาดที่ต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกันเลยทีเดียว

จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมากลั่นแกล้งกันเองภายในร้านอย่างไรก็ตามเมื่อทางเจ้าของร้านได้มีการไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านซึ่งมีมากถึง 24 ตัวจะพบว่ากล้องวงจรปิดทุกตัวนั้นเสียหมดเครื่องใช้งานได้เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้นทำให้ทางเจ้าของร้านต้องขอระยะเวลาในการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นและได้มีการประกาศออกมาผ่านเพจของลูกพี่ตี๋น้อยว่าร้านสุกี้สาขาดังกล่าวนั้นจะขอปิดทำการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 10 วันเพื่อทำการปรับปรุงการให้บริการรวมถึงการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยฮานอย