ประโยชน์ที่ได้จากการออกกำลังกายในทุกๆวัน

การออกกำลังกายถือได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะการออกกำลังกายในทุกวันเราทราบดีอยู่แล้วว่ามันจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง โดยเราจะมีหุ่นเรียว รูปร่างดีขึ้น แต่ถ้าเราพยายามออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมงทุกๆวัน คุณทราบหรือไม่ว่ามันจะเกิดผลดีอะไรบ้าง

วันนี้เราจะมาบอกถึงประโยชน์ที่ได้จากการออกกำลังกายในทุกๆวัน โดยมันจะมีประโยชน์อะไรบ้าง หากเราออกกำลังกายเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

การออกกำลังกายมีข้อดีมากมายต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ ดังนี้

1.คุณจะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น  คุณจะมีอารมณ์ดีขึ้นคือพูดง่ายๆว่าจะมีความสุขมากขึ้น จะมองโลกได้บวกมากขึ้น เนื่องจากว่าเมื่อคุณได้ออกกำลังกายก็จะมีสารอินโดฟินออกมาสารนี้จะส่งผลทำให้คุณนั้นอารมณ์ดีขึ้น มีความสุขมากยิ่งขึ้น มันจะเข้าไปกระตุ้นความสุขให้แก่คุณ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ที่ชอบออกกำลังกายพวกเขามักจะยิ้มแย้มและมีความสุข นั่นคือความสุขที่พวกเขาได้รับจากการออกกำลังกายนี่แหละ

2.น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นยาก  นอกจากน้ำหนักจะลงแล้ว ผู้ที่ออกกำลังกายบ่อยนี้น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นยากตามไปด้วย จะเห็นได้ว่าเมื่อเราออกกำลังกายแล้วนั้น เราก็ได้ทำการเผาผลาญไขมันที่อยู่ในร่างกายหรือไขมันที่สะสมของเราออกไป ดังนั้นมันจะช่วยให้ก้ามเนื้อของเรานั้นแข็งแรงขึ้นได้ดีอีกด้วย

3.เสริมสร้างระบบหัวใจและหลอดเลือด  การออกกำลังกายช่วยปรับปรุงระบบหัวใจและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

4.ควบคุมน้ำหนัก  การออกกำลังกายช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม

5.เสริมสร้างกล้ามเนื้อ  การฝึกฝนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, เพิ่มประสิทธิภาพของระบบกล้ามเนื้อและสามารถช่วยลดความเมื่อยล้าในชีวิตประจำวัน

6.พัฒนาระบบกระดูก  การฝึกฝนช่วยเสริมกระดูกและลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูก เช่น โรคกระดูกพรุน

7.ปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน  การออกกำลังกายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อต้านโรคและการติดเชื้อได้ดีขึ้น

8.ปรับปรุงการนอน  การออกกำลังกายช่วยลดอาการนอนไม่หลับและปรับปรุงคุณภาพของการนอน

9.ลดความเครียดและซึมเศร้า  การออกกำลังกายปลดปล่อยสารเคมีในสมองที่ช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างความสุข ลดภาวะซึมเศร้า

10.พัฒนาการลมหายใจ  การออกกำลังกายช่วยพัฒนาการลมหายใจ ทำให้ร่างกายใช้ประโยชน์จากออกซิเจนได้ดีขึ้น

11.เพิ่มความยืดหยุ่น  การฝึกฝนท่าทางที่ยืดหยุ่นช่วยลดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อและส่งผลให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น

การออกกำลังกายควรทำอย่างสม่ำเสมอและเลือกกิจกรรมที่คุณทำใจชอบ  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่    เพื่อให้มีประสิทธิภาพและสนุกสนานมากขึ้น

จัดการกับปัญหาการขาดแคลนพยาบาลที่เลวร้ายลงด้วยเทคโนโลยี

การฝึกอบรม และการเปลี่ยนแปลง ความต้องการพยาบาลในเอเชียจะเพิ่มขึ้นตามอายุของประชากรเท่านั้น เราจะสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถของพยาบาลในบทบาทของตนได้มากขึ้นได้อย่างไร Tim Morris รองประธานฝ่าย Go-to-Market, EMEALAAP, Elsevier แบ่งปันความคิดของเขา การขาดแคลนพยาบาลเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน

โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ประชากรสูงวัยที่ต้องการมากขึ้น และการดูแลที่ซับซ้อนมากขึ้น พยาบาลอาวุโสที่เข้าสู่วัยเกษียณจำนวนมาก และมีพยาบาลลาออกมากขึ้นเนื่องจากความเหนื่อยหน่าย

ในที่สุดวิกฤตที่คุกรุ่นอยู่ก็มาถึงจุดวิกฤตในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกพยาบาลอันดับต้นๆ ของโลก

ประมาณ 40% ของพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนลาออกในช่วงหนึ่งปีครึ่งเนื่องจากการแพร่ระบาด อัตราการลาออกของพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐในสิงคโปร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีในปี 2564 โดยมีพยาบาลชาวต่างชาติเกือบ 15% ลาออก ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับอัตราการออกจากงาน 7% ในปี 2563

Tim Morris รองประธานฝ่าย Go-to-Market, EMEALAAP, Elsevier “จำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นหมายความว่ามีการพึ่งพาพยาบาลมากขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในชุมชนนานขึ้นยังเพิ่มความต้องการการพยาบาลในชุมชนอีกด้วย

หากคุณจับคู่สิ่งนั้นกับจำนวนแพทย์ที่ลดลงต่อผู้ป่วย นั่นหมายความว่าพยาบาลจะต้องทำงานมากขึ้นเพื่อสนับสนุนแพทย์ในแง่ของการปฏิบัติของพวกเขาไปพร้อมๆ กับการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยไปด้วย” ทิม มอร์ริส รองประธานฝ่าย Go-to-Market, EMEALAAP กล่าว เอลส์เวียร์

การออกแบบงานพยาบาลใหม่และการมอบหมายงาน: ใช้งานได้หรือไม่ แม้ว่าบางประเทศหันมาใช้ค่าจ้างหรือสวัสดิการที่ดีขึ้นในการรับสมัครพยาบาล แต่ความท้าทายก็คือโลกจะต้องการพยาบาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โรงพยาบาลและองค์กรด้านการดูแลสุขภาพต้องการกลยุทธ์แบบองค์รวมพร้อมวิธีใหม่ๆ ในการดึงดูดผู้คนให้มาทำงานพยาบาลมากขึ้น

และเพื่อรักษาพยาบาลที่มีอยู่ให้ดีขึ้น พยาบาลที่ออกจากอุตสาหกรรมมักอ้างว่ามีภาระงานสูงและชั่วโมงทำงานที่ยาวนานเป็นเหตุผลในการลาออก เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โรงพยาบาลบางแห่งจึงหันมาออกแบบงานใหม่และการมอบหมายงานบางอย่าง เช่น การให้อาหารและการทำความสะอาด เพื่อลดภาระงานพยาบาล “การอนุญาตให้พยาบาลมีอิสระและมีขอบเขตการปฏิบัติที่เข้มแข็งถือเป็นสิ่งสำคัญ

หนึ่ง สนับสนุนการจัดการผู้ป่วย และสอง ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพของพยาบาลและคุณค่าที่พยาบาลรู้สึกเกี่ยวกับบทบาทของพวกเขา เราสามารถปรับปรุงการรักษาพยาบาลได้หากพวกเขาสนุกกับงานและสามารถเชื่อมโยงการดูแลกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาได้” นายมอร์ริสกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ช่วยดูแลในปัจจุบันก้าวหน้าไปเป็นพยาบาล ก็อาจนำไปสู่วงจรความไม่สมดุลระหว่างจำนวนพยาบาลและผู้ดูแลได้ เขาชี้ให้เห็น “ดังนั้นการมีบทบาทที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่อาจดำรงตำแหน่งผู้ช่วยดูแล ผู้ที่ให้การจัดการการดูแลผู้ป่วยขั้นสูง และพยาบาลอาวุโสที่อาจจัดการกลุ่มผู้ป่วยผ่านการประเมินและการจำหน่าย

เราต้องการการฝึกอบรมที่เหมาะสมสำหรับทุกคน และอาจเป็นเส้นทางในการย้ายจากพื้นที่หนึ่งของการดูแลไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง การมีกฎระเบียบที่ดีจะทำให้ทุกคนเข้าใจคำจำกัดความและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันของพยาบาลเหล่านี้”

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ถ่านเครื่องช่วยฟัง

เช็คสัญญาณเตือนการเกิดโรควิตกกังวล

โรควิตกกังวล เรียได้ว่าเป็นหนึ่งในโรคทางสุขภาพจิตที่หลาย ๆ คนจะต้องพบเจอกันอยู่เป็นประจำ เนื่องด้วยปัญหาการใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความเครียด ความกดดันต่าง ๆ มากมาย จึงทำให้บางคนนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้กันค่อนข้างสูง อีกทั้งยังอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความสะเอนใจ

การเกิดโรควิตกกังวล จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้นั่นเอง ซึ่งรู้หรือไม่ว่าโรคนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยจนทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเคยชิน แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นหนึ่งในโรคทางจิตใจที่มีความอันตราย และรุนแรงเป็นอย่างมาก

ถึงแม้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาต แต่เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเรานั่นเอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลาย ๆ คนในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวลทางจิตใจกันอยู่อย่างแน่นอน

ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า สัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ถึงอาการดังกล่าว จะมีอะไรบ้าง เผื่อว่าเราจะรู้ตัวเร็ว และป้องกันได้อย่างท่วงที    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก   และไม่ให้อาการนั้นแย่ลงไปกว่าเดิม  ไปดูกันเลย 

  • มีอาการใจลอย

เนื่องจากคนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ โดยทั่วไปแล้วมักที่จะมีอาการใจลอยอยู่ตลอดเวลา บางครั้งอาจจะรู้สึกตกใจได้ง่ายไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม จะรู้สึกตื่นตูม หรือตื่นตระหนัก กลัว จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้นั่นเอง ดังนั้น หากใครที่อยากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวลหรือไม่ การสังเกตอาการเบื้องต้นของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถป้องกันอาการไม่ให้รุนแรงขึ้นได้ 

  • ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่า เราไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม หรือบางครั้งเราอาจจะรู้สึกหงุดหงิด ไม่มีสมาธิอยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งอาจการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการที่รุนแรงอต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก หากใครที่รู้ตัวว่าตนเองมีพฤติกรรมดังกล่าวควรที่จะรู้ได้แล้วว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวล 

  • หัวใจเต้นเร็ว

แน่นอนว่าอาการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า คุณกำลังตกอยู่ในภาวะวิตกกังวลอย่างแน่นอน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหัวใจเต้นเร็วเกินไป หายในถี่มากขึ้น ใจสั่นเป็นระยะ ๆ ร่างกายกระสับกระส่าย หรือในบางครั้งอาจมีอาการมือเท้าเย็น เหงื่อออก

ถึงแม้ว่าจะเป็นอาการที่หลาย ๆ คนมองว่าเกิดขึ้นแต่ไม่ได้รุนแรง แต่อยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่า ไม่ว่าอาการไหนจะเกิดขึ้นกับร่างกายของเราก็ตาม หากเราปล่อยไว้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ยังอาจเพิ่มความรุนแรงของอาการให้เพิ่มมากขึ้นได้นั่นเอง 

ประโยชน์ดีๆของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

ประโยชน์ดีๆของเครื่องดื่ม เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนเพศไหนก็คงที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงเพื่อเป็น หนึ่ง ในตัวช่วยในการเสริมสร้าง การทำงานของร่างกาย หรือทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันนั้นมีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น

ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าการที่เราจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีได้นั้นสามารถสร้างได้ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำหรือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่ไปด้วย

แต่ทว่า หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เครื่องดื่มในสมัยปัจจุบันนี้ที่ได้หลายคนชื่นชอบและดื่มกันอยู่บ่อยๆก็ถือเป็น หนึ่ง ในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายหรือเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายของเราได้เช่นกัน

ฉะนั้น เขาบอกเลยว่า การสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเองปัจจุบันนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆหลากหลายวิธี

อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองด้วยการเลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่หลายๆคนเลือกดื่มกันอยู่เป็นประจำนั้นจะมีประโยชน์อะไรต่อสุขภาพร่างกายเป็นดูกันเลย

1.ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง

เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่เต็มไปด้วยการทำงาน จึงทำให้บางคนนั้นใช้งานสมองอย่างหนักและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลสมองให้ดีอยู่เสมอซึ่งรู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มบางประเภทหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ถือเป็น หนึ่ง ในตัวช่วยดีๆที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมองของเราให้แข็งแรงขึ้นได้ แถมยังช่วยเพิ่มพลังงานที่ดีให้แก่สมองเพื่อที่จะให้เรานั้นสามารถคิดงานได้ออกนั่นเอง

2.ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มขิงหรือโสม ซึ่งหลายคนอาจจะทราบได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นเครื่องดื่มที่หลายคนชื่นชอบและดื่มกันอยู่บ่อยๆ สามรถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายของเราได้ แถมยังเป็น หนึ่ง ในตัวช่วยดีๆที่จะสามารถป้องกันร่างกายของเราจากการเกิดอาการต่างๆด้วยโรคร้ายต่างๆได้

3.ดีต่อระบบขับถ่าย

รู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มบางประเภทนั้นสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารหรือช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟดำซึ่งจะมีฤทธิ์ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย คนรักสุขภาพหรือคนที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักมักที่จะดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้กัน

อยู่เป็นประจำเพราะ 3 ารถช่วยลดน้ำหนักและทำให้ตนเองมีรูปร่างที่ดีได้นั่นเอง รับรองได้เลยว่า หากเราดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นประจำ จะไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายหรือระบบขับถ่ายยังมีประโยชน์อื่นๆต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย

 

สนับสนุนข้อมูลโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

รู้หรือไม่แอลกอฮอล์ก็มีประโยชน์

แอลกอฮอล์ก็มีประโยชน์ โดยทั่วไปแล้วเราจะเห็นได้ว่าในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่หันมาดื่มแอลกอฮอล์กันเยอะมากๆเพราะเครื่องดื่มชนิดนี้ถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ทำให้หลายๆคนรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดและทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นได้ แต่รู้หรือไม่ว่าถึงแม้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะสามารถช่วยบรรเทาความเครียดและทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

แต่ในขณะเดียวกันนั้นหากเราดีเยอะหรือดื่มในปริมาณที่มากจนเกินไปนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตยังอาจทำให้ร่างกายของเราได้รับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

แต่ทว่า ถึงแม้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นเครื่องดื่มที่หลายคนมองว่าไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายยิ่งเราดื่มเยอะจะยิ่งส่งผลกระทบต่อร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เราดื่มเข้าไปนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการเกิดโรคร้ายบางชนิดได้ แต่ทางที่ดีเราก็ควรที่จะดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายของเราได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หลายๆคนชอบดื่มเป็นประจำนั้นจะสามารถป้องกันโรคหรือเกิดประโยชน์อะไรแก่ร่างกายของเราได้บ้างไปดูกันเลย

  • แอลกอฮอล์ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

หลายคนอาจจะงงว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะเป็นเครื่องดื่มที่สามารถช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อย่างไร เพราะเครื่องดื่มชนิดนี้ถือเป็นเครื่องดื่มที่อาจทำลายสุขภาพร่างกายของเรา แต่รู้หรือไม่ว่าเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราได้รับแอลกอฮอล์เข้าไปแล้วนั้น แอลกอฮอล์จะถูกลำเลียงเข้าไปในกระแสเลือด ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดของร่างกายเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อไปเลี้ยงหัวใจนั่นเอง

  • แอลกอฮอล์ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

แน่นอนว่าโรคเบาหวานถือเป็นหนุ่มในโรคที่พบเจอได้บ่อยและเกิดขึ้นบ่อยมาก ๆ แถมยังเป็นหนึ่งในโลกที่เกิดขึ้นบ่อยจนทำให้หลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วซึ่งรู้หรือไม่ว่าโรคเบาหวาน เป็นหนึ่งในโรคที่อาจเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุแต่วิธีการป้องกันโรคนี้ก็มีหลากหลายวิธีเช่นกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอลกอฮอล์ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี เพราะ  เครื่องช่วยฟังราคาถูก    การที่เราดื่มแอลกอฮอล์นั้นจะมีส่วนช่วยในการลดภาวการณ์ดื้ออินซูลินภายในร่างกายของเราให้ลดลงได้นั่นเอง

  • แอลกอฮอล์ดีต่อใจ

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่สามารถช่วยบรรเทาความเครียด ช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่คอยปลอบชโลมหัวใจของใครหลายๆคนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหากเราดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นนอกจากจะเกิดประโยชน์แก่ร่างกายของเราแล้วยังอาจทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตอีกด้วย

แนะนำสมุนไพรที่จะช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายมากขึ้น

รู้หรือไม่ว่าในสมัยปัจจุบันนี้นอกจากการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอหรือการเลือกรับประทานอาหารที่ ประโยชน์จะมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามแล้ว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ ดีต่อสุขภาพร่างกายและเราไม่ควรมองข้ามเช่นกัน

สมุนไพรที่จะช่วยให้เรานอนหลับ ถึงแม้ว่าหลายคนจะมีการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยการทำงานการเรียนหรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวเองก็ตามไม่ว่าจะหนักหนามากแค่ไหนเราก็ควรที่จะให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกาย

เนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บในสมัยปัจจุบันนี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ฉะนั้น สำหรับใครที่มักมีพฤติกรรมการนอนหลับยาก นอนไม่ค่อยหลับ หรือมีอาการหลับหลับตื่นตื่นในระหว่าง การนอน

วันนี้เราก็จะมาแนะนำสมุนไพรที่เรียกได้ว่านอกจากจะมีประโยชน์ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้ว    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล    ยังมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ทำให้เรานั้นสามารถนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จะมีสมุนไพรชนิดไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.มะกรูด

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่สามารถหาได้ง่ายแถมยังมีประโยชน์ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย ซึ่งในสมัยนี้ เรามักจะเห็นได้ว่า มะกรูดสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายรูปแบบมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสมุนไพร หรือแม้แต่อาหารเองก็ตาม ซึ่งรู้หรือไม่ว่ามะกรูดนั้นถือเป็นพืชที่สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ที่จะช่วยให้เรานั้นรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

2.มะระ

ถึงแม้ว่าพืชผักสมุนไพรชนิดนี้จะเป็นพืชผักสมุนไพรที่หลายๆคนอาจไม่ชื่นชอบเนื่องจากมะระจะมีรสชาติที่ขมและไม่ถูกปากจึงทำให้หลายๆคนนั้นอาจไม่ชอบแต่รู้หรือไม่ว่าสรรพคุณและประโยชน์ของมะระนั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะมะระจะมีส่วนช่วยในการลดอาการนอนไม่หลับของเราให้ลดลงได้ แถมยังช่วยให้เรานั้นนอนหลับได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

3.สะเดา

เป็นอีกหนึ่งในพืชสมุนไพรที่เราสามารถหาทานกันได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะมีรสชาติที่ขม แต่ละหลายคนนั้นก็ชื่นชอบ การทานพืชสมุนไพรชนิดนี้กันเป็นอย่างมาก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสะเดาถือเป็นหนึ่งใน สมุนไพรที่สามารถช่วยทำให้เรานั้นนอนหลับได้สบายมากขึ้น เพราะสะเดานั้นจะมีฤทธิ์เย็น ที่ช่วยปรับสมดุลธาตุไฟในร่างกายของเราได้ สามารถทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดอาการตื่นตัวร่างกาย และช่วยลดอาการวิตกกังวลจึงทำให้เรานั้นนอนหลับได้ง่ายมากขึ้น

3 สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราผมหงอกได้ง่าย

สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราผมหงอก รู้หรือไม่ว่า ปัญหาของผู้หญิงส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ก็คือการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี โดยเฉพาะอย่างกการดูแลเส้นผมของตนเองไม่ให้มีผมหงอกได้ง่าย ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราเป็นผมหงอกได้ง่ายนั่นก็คือความเครียด

เพราะความเครียดไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง แต่ยังเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่อาจทำให้ผู้หญิงอย่างเรามีผมงอกได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

และแน่นอนว่า สาวๆส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมองหาวิธีในการกำจัดผมหงอกโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการย้อมสีผมเพื่อปิดบังเส้นผม นั่นเองซึ่งรู้หรือไม่ว่าวิธีนี้ถือเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันการเกิดผมหงอกเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อเวลาผ่านไป

สี่ที่เรายอมลงไปบนผมก็จะหลุดออกไปและทำให้ผมหงอกของเรากลับมาเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในสมัยปัจจุบันนี้มีวิธีต่างๆมากมายที่จะช่วยปิดบังเส้นผมสีขาวของเรา

หรือผมหงอกที่อาจเกิดขึ้นก่อนวัยซึ่งเราก็ควรที่จะศึกษา และดูให้ดีว่าวิธีไหนมีความเหมาะสมต่อเรามากที่สุด เพื่อ  เครื่องช่วยฟัง    ที่จะได้เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต ฉะนั้นวันนี้เราจะพาผู้หญิงทุกคนไปดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้เราผมหงอกได้ง่ายนั้นจะมีอะไรกันบ้างเผื่อว่าจะทำให้หลายๆคนป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ไปดูกันเลย

  • เกิดจากกรรมพันธุ์

แน่นอนว่าการที่เราได้รับการถ่ายทอดจากครอบครัวหรือทางกรรมพันธุ์นั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เรา เป็นผมหงอกได้ก่อนวัยอันควร ซึ่งในข้อนี้หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะการที่ญาติของเรามี ปัญหาเกี่ยวกับผมหงอกก่อนวัยอันควร ซึ่งก็มีโอกาสสูงมากที่จะถ่ายทอดพันธุกรรมมาสู่เราและทำให้เรานั้นมีโอกาสที่จะเป็นผมงงได้ก่อนวัยอันควรนั่นเอง

  • เกิดจากโรคไทรอยด์

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโลกที่มีความอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราเป็นผมหงอกได้ง่ายนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นจากโรคไทรอยด์ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการไทรอยด์เป็นพิษ  ซึ่งอาการนี้ ร่างกายของเราจะได้รับความเสี่ยงเลยก็คือมีอาการผมร่วง ผมบางหรือแม้แต่ผมขาดง่าย แถมยังเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้สีผมของเรานั้นอ่อนลงได้มากกว่าปกติอีกด้วย

  • เกิดจากความเครียด

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่ายิ่งถ้าเราเครียดมากๆก็จะยิ่งทำให้เราผมหงอกก่อนวัยอันควรได้ไม่ว่าเราจะอายุขนาดไหนก็ตาม หรืออายุยังน้อยหากเราเครียด ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เรามีโอกาสสูงมากที่จะเป็นผมหงอกก่อนวัยอันควรนั่นเอง ดังนั้น ทั้งให้ดีการไม่เครียดถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ เราไม่ควรมองข้ามเพื่อที่เราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่ดี

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีสำหรับจิตใจและร่างกาย

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี ทุกคนมีวิธีของตัวเองในการ “เติมพลัง” ให้กับความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม โดยส่วนตัวแล้ว ฉันรู้ว่ามีบางสิ่งที่สามารถปรับปรุงวันของฉันได้อย่างรวดเร็ว เช่น การเดินไปรอบ ๆ ตึก หรือแม้กระทั่งการลุกจากโต๊ะและวิดพื้น การเดินป่าผ่านป่านั้นเหมาะมาก

เมื่อฉันสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ แต่นั่นคือฉัน ไม่ใช่แค่ว่าฉันสนุกกับกิจกรรมเหล่านี้ แต่ยังทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นและทำให้จิตใจปลอดโปร่ง สุขภาพจิตและสุขภาพกายสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด อย่าล้อเล่น

สิ่งที่ดีต่อร่างกายมักจะดีต่อจิตใจ การรู้ว่าคุณสามารถทำอะไรทางร่างกายที่มีผลกับคุณได้ จะเปลี่ยนวันและชีวิตของคุณ

การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพจิตมากมาย สิ่งเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่ในแนวทางการออกกำลังกายสำหรับชาวอเมริกัน และรวมถึงสุขภาพสมองที่ดีขึ้นและการทำงานของสมอง (ความสามารถในการคิด ถ้าคุณต้องการ) ความเสี่ยงที่ลดลงของความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า และการนอนหลับที่ดีขึ้นและคุณภาพชีวิต

โดยรวม แม้ว่าจะไม่ใช่วิธีรักษาทั้งหมด แต่การเพิ่มกิจกรรมทางกายมีผลโดยตรงต่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น สุขภาพโดยรวมและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

การเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดเป็นประจำและการตรวจคัดกรองภาวะซึมเศร้าเป็นเพียงแนวทางปฏิบัติในการป้องกันที่ดี การตระหนักรู้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ของปี เมื่อการหยุดชะงักของพฤติกรรมและทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอาจมีแนวโน้มสูงขึ้นและสั่นสะเทือนมากขึ้น วันที่สั้นลงและอุณหภูมิที่เย็นลงทำให้กิจวัตรประจำวันหยุดชะงัก เช่นเดียวกับวันหยุด มีทั้งความสุขและความเครียด

เมื่อแสงแดดที่อุดมสมบูรณ์และท้องฟ้าแจ่มใสในเดือนที่มีอากาศอบอุ่นหลีกทางให้กับสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ เวลากลางวันที่น้อยลง และการสังสรรค์รื่นเริง

อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวหรือดูเหมือนเป็นธรรมชาติที่จะหันเหความสนใจไปจากการเคลื่อนไหวร่างกาย อย่างไรก็ตาม  เครื่องช่วยฟัง     แนวโน้มดังกล่าวคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องใส่ใจสุขภาพกายและอารมณ์ให้มากขึ้น และเราจะรักษาทั้งสองอย่างได้อย่างไรในช่วงเวลานี้ของปี

ประมาณครึ่งหนึ่งของคนทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางจิตในช่วงหนึ่งของชีวิต โดยโรควิตกกังวลและโรควิตกกังวลเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุด โรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นโรคทางจิตที่พบได้บ่อยที่สุดอีกโรคหนึ่ง ยังเป็นสาเหตุสำคัญของความพิการในวัยกลางคนอีกด้วย เมื่อรวมสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน ความผิดปกติทางสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล

อาจส่งผลต่อความสามารถของผู้คนในการมีส่วนร่วมในพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ รวมถึงกิจกรรมทางกาย นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพกายยังนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตและทำให้ผู้คนเข้ารับการรักษาความผิดปกติทางสุขภาพจิตได้ยากขึ้น

การกำจัดไขมันกระพุ้งแก้มคืออะไร สิ่งที่คาดหวังจากขั้นตอนเครื่องสำอาง

การกำจัดไขมันกระพุ้งแก้ม หากคุณใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเพื่อดูเทรนด์ความงามล่าสุด คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับการกำจัดไขมันกระพุ้งแก้ม ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า bichectomy หรือ bichectomia

โพสต์เกี่ยวกับ #buccalfatremoval ขั้นตอนเครื่องสำอางที่กำจัดไขมันในร่องแก้มเพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น เพิ่งมียอดวิวเกือบ 140 ล้านครั้งบน TikTok เพียงอย่างเดียว หัวข้อนี้ยังร้อนแรงใน Instagram, Twitter และ Facebook โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวลือที่ไม่ได้รับการยืนยันจำนวนมาก

เกี่ยวกับคนดังที่เคยทำ เช่น Sophie Turner, Bella Hadid, Zoe Kravitz, Dove Cameron และ Lea Michele ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมการทำแก้มให้บางนี้จึงมีชื่อเล่นว่า “แก้มฮอลลีวูด”

แผ่นไขมันกระพุ้งแก้มอยู่ระหว่างกระดูกกรามและโหนกแก้มและช่วยสร้างรูปหน้าของคุณ ตามคลีฟแลนด์คลินิก ขั้นตอนเครื่องสำอางในสำนักงานเพื่อขจัดแผ่นไขมันกระพุ้งแก้มสามารถช่วยเน้นโครงสร้างกระดูกบนใบหน้าของคุณโดยทำให้โหนกแก้มของคุณดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

เพื่อหาสิ่งอื่นที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการกำจัดไขมันกระพุ้งแก้ม การกำจัดไขมันกระพุ้งแก้มคืออะไร  ทุกคนมีไขมันกระพุ้งแก้มตามธรรมชาติตามที่คลีฟแลนด์คลินิกบันทึกไว้ ขนาดที่แน่นอนของแผ่นไขมันกระพุ้งแก้มอาจแตกต่างกันไป และอาจดูใหญ่ขึ้นหรือมีส่วนทำให้มีลักษณะกลมมากขึ้นในบางคน

แต่บางคนไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ที่ทำการสลายไขมันกระพุ้งแก้มอาจรู้สึกว่าใบหน้ากลมเกินไปและต้องการให้ดูมีมิติมากขึ้น

เมื่อผู้คนกำจัดไขมันกระพุ้งแก้ม เป้าหมายของพวกเขาคือทำให้แก้มบางลงและทำให้โครงสร้างกระดูกบนใบหน้าดูเด่นชัดขึ้น ตามที่ American Society of Plastic Surgeons กล่าว เรียกอีกอย่างว่าการลดขนาดแก้ม การทำศัลยกรรมประเภทนี้จะช่วยเน้นโครงร่างของกระดูกกรามและกระดูกแก้ม Mohiba Tareen, MD, ผู้อำนวยการด้านการแพทย์

และผู้ก่อตั้ง Tareen Dermatology ใน Roseville, Minnesota กล่าวว่า “ผู้ป่วยที่ต้องการทำหัตถการนี้มักมองหากรามที่บางลงและแก้มอิ่มที่ลดลง” “ข้อดีคือใบหน้าได้รูปขึ้น”

การกำจัดไขมันกระพุ้งแก้มดีอย่างไร การกำจัดไขมันกระพุ้งแก้มโดยทั่วไปจะทำเป็นขั้นตอนของผู้ป่วยนอกโดยใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อทำให้ผิวหนังชาบนใบหน้าและบริเวณโดยรอบ ตามคลีฟแลนด์คลินิก โดยทั่วไป ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ เว้นแต่ว่าพวกเขากำลังทำหัตถการอื่นๆ ที่ซับซ้อนกว่าในเวลาเดียวกัน

ในการทำงานนี้ ศัลยแพทย์ตกแต่งจะทำแผลเล็กๆ ที่ด้านในปากทั้งสองข้างของใบหน้าเพื่อเข้าถึงแผ่นไขมันกระพุ้งแก้ม จากนั้นศัลยแพทย์จะกดแผ่นอิเล็กโทรดเพื่อให้เห็นเนื้อเยื่อไขมันนี้มากขึ้น และทำให้ง่ายต่อการตัดและเอาแผ่นไขมันกระพุ้งแก้มทั้งหมดหรือบางส่วนออก หลังจากนี้ศัลยแพทย์จะทำการเย็บแผลเพื่อสมานแผลซึ่งอาจละลายได้หรืออาจต้องนัดติดตามผลเพื่อทำการตัดออก

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟัง

การรักษาที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับอาการปวดหัวไมเกรน

อาการปวดหัวไมเกรน เมื่อถามเกี่ยวกับการรักษาที่เกิดขึ้นใหม่ Ulm สังเกตว่ายาใหม่ 2 กลุ่มที่รู้จักกันในชื่อ gepants ได้แก่ rimegepant, atogepant และ ubrogepant รวมถึง ditans เช่น lasmiditan เพิ่งได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล Ulm ตั้งข้อสังเกตว่า “Gepants มุ่งเป้าหมายไปที่สาเหตุหลักประการหนึ่งของไมเกรน

ซึ่งเป็นโมเลกุลที่เรียกว่าเปปไทด์ที่เกี่ยวข้องกับยีนแคลซิโทนิน (CGRP) ในขณะที่ไดแทนส์จะเลือกตัวรับเซโรโทนินตัวเดียวกัน

ที่กำหนดเป้าหมายโดยทริปแทน โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่า” Ulm กล่าว การศึกษาแสดงให้เห็นว่ายาเหล่านี้สามารถใช้ได้ในผู้ที่เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ไม่สามารถรับประทานทริปแทนได้นอกจากนี้ยังมีความสนใจในศักยภาพของเซเลคอกซิบในรูปของเหลว ซึ่งเป็นยากลุ่ม NSAID อีกชนิดหนึ่งที่อาจมีประโยชน์ในบางกรณีของไมเกรน และการปรับปรุงการดมยาสลบ” อูล์มกล่าวเสริม

ดร. วาเนสซา คูเปอร์ นักประสาทวิทยาแห่ง Yale Medicine ในรัฐคอนเนตทิคัต บอกกับ MNT ว่าอุปกรณ์ปรับระบบประสาทที่ไม่ใช่เภสัชวิทยา

ซึ่งกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าหรือแม่เหล็ก อาจได้ผลเช่นกัน อุปกรณ์ควบคุมระบบประสาทด้วยไฟฟ้าระยะไกล (REN) (Nerivio) กระตุ้นเส้นประสาทส่วนปลายในต้นแขน ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่การปรับความเจ็บปวดแบบมีเงื่อนไขและให้ทางเลือกที่ไม่เกี่ยวกับเภสัชวิทยาสำหรับผู้ป่วย” เธอกล่าว “อุปกรณ์ตัวที่สองที่รวมการกระตุ้นภายนอกบริเวณท้ายทอยและไตรจีมินัล (Reviolon) ยังเป็นทางเลือกที่ไม่เกี่ยวกับเภสัชวิทยาสำหรับผู้ป่วยที่อาจไม่สามารถทนต่อการรักษาด้วยยาแบบดั้งเดิมได้”

การรักษาแบบไม่ใช้เภสัชวิทยาสำหรับไมเกรน “มีคนจำนวนมากที่ตอบสนองต่อยาใด ๆ ได้ไม่ดีนักหรือมีผลข้างเคียงกับยาเหล่านั้น

แม้แต่ยาที่ใหม่กว่า และยาที่ใหม่กว่ามักมีราคาแพงและบางคนไม่สามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังมีผู้คนจำนวนมากที่ชอบวิธีการที่ไม่ใช้ยา” ดร. Howard Schubiner อายุรแพทย์และศาสตราจารย์คลินิกแห่ง Michigan State University College of Human Medicine กล่าวกับ MNT สำหรับผู้ป่วยเหล่านี้ Schubiner กล่าวว่าเขาพบว่าการบำบัด เช่น การบำบัดด้วยความเจ็บปวด

การตระหนักรู้ทางอารมณ์ และการบำบัดด้วยการแสดงออก สามารถบรรเทาความเจ็บปวดจากสภาวะต่างๆ เช่น ไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพไมเกรนมีความสัมพันธ์อย่างมากกับเหตุการณ์ตึงเครียดในชีวิต และมีแนวโน้มมากขึ้นในผู้ที่เคยมีประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจในวัยเด็ก

บางคนสามารถเห็นการเชื่อมต่อเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายและสนใจที่จะสำรวจพวกเขา” เขากล่าว “สมองของเราสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ตึงเครียดในชีวิตโดยสร้างการตอบสนองทางร่างกายที่หลากหลาย รวมถึงความวิตกกังวล นอนไม่หลับ ไม่สบายท้องหรืออุ้งเชิงกราน ปวดคอหรือหลัง และปวดศีรษะประเภทต่างๆ ซึ่งไมเกรนก็เป็นหนึ่งในนั้น อาการเหล่านี้เป็นจริง 100 เปอร์เซ็นต์; ไม่ได้จินตนาการ”

 

ได้รับการสนับสนุนจาก    เครื่องช่วยฟังราคาถูก