ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตาของเรา

 ปัญหาที่เกี่ยวกับตามีหลายประการ และต้องการการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

1.สายตาสั้น (Myopia): หรือที่เรียกว่า “สายตาบวม” คือการมองเห็นวัตถุที่ใกล้มีชัดเจน แต่การมองเห็นวัตถุที่ไกลอาจไม่ชัดเจน น้อยๆ ก็เรียกว่า “เป็นสายตาสั้น” ในกรณีนี้, เจ้าของตาอาจต้องใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา

2.สายตายาว (Hyperopia): หรือที่เรียกว่า “สายตายาว” คือการมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ส่วนการมองเห็นวัตถุที่ไกลอาจมีชัดเจน การใช้แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์สามารถช่วยปรับปรุงได้

3.กระดาษตา (Presbyopia): เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อตาสูญเสียความสามารถในการโฟกัสตัวต่อโฟกัสตามที่เรามีในวัยเยาว์ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่จะต้องใช้แว่นตาสำหรับการอ่านหรือการทำกิจกรรมใกล้ชิด

4.โรคต้อกระจกตา (Astigmatism): เป็นสภาวะที่ทำให้รูร้อยตามรูปแบบที่ผิดปกติ ทำให้มองเห็นภาพที่บิดเบี้ยวหรือเบลอ

5.การต้องการการรักษาผ่าตัด: ในบางกรณี, การต้องการรักษาผ่าตัด เช่น ลาสิก, เพื่อปรับปรุงการมองเห็นอาจเป็นทางเลือกที่พิจารณาได้

6.โรคตาชัก (Glaucoma) และต้อหินตา (Cataracts): เป็นโรคตาร้ายแรงที่สามารถทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ และต้องรับการรักษาโดยแพทย์

7.การติดเชื้อหรือการอักเสบในตา: อาจเกิดจากการบาดเจ็บหรือการติดเชื้อที่ทำให้ตาแดง บวม หรือมีน้ำตาไหล

8.อาการอื่นๆ: มีหลายอาการอื่นที่เกี่ยวข้องกับตา เช่น ตาแห้ง, ตาพร่า, หรือติดคอแว่น

หากคุณพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตา, ควรพบแพทย์ตาเพื่อการประเมินและการวินิจฉัยที่ถูกต้อง. การดูแลตาและรักษาตาในระยะเร็วมีความสำคัญเพื่อรักษาสุขภาพตาในระยะยาว

 

การดูแลดวงตา

การดูแลดวงตาเป็นส่วนสำคัญของการรักษาสุขภาพทั่วไป และสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาตาหลายประการได้. นี่คือบางแนวทางในการดูแลดวงตา

1.ทำตาสม่ำเสมอ (Blink Regularly): การทำตาสม่ำเสมอช่วยในการรักษาความชุ่มชื่นในตาและลดความเหนื่อยของตา

2.พักผ่อนตา (Eye Rest): หลังจากทำงานหรือใช้เวลาในการมองทีวีหรือหนังสือ เพื่อให้ตาได้พักผ่อน ควรทำการพักตาอย่างน้อยทุก 20 นาที โดยการหันหน้าออกจากหน้าจอ และทำการมองไกล

3.รักษาสภาพอากาศในระดับที่เหมาะสม: สภาพอากาศที่มีความชื้นต่ำอาจทำให้ตาแห้ง ใช้เครื่องทำความชื้นหากจำเป็น

4.ใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ตาถูกต้อง: หากมีปัญหาทางตาเช่นสายตาสั้น, สายตายาว, หรืออื่นๆ ควรใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ตาตามคำแนะนำของแพทย์

5.บริหารสุขภาพทั่วไป: การรักษาสุขภาพทั่วไปอย่างดี รวมถึงการออกกำลังกาย, การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์, และการลดการสูบบุหรี่ สามารถส่งผลต่อสุขภาพตาได้

6.ป้องกันจากแสงแดด: การใส่แว่นตากันแสงแดดที่มีความคุ้มกัน UV สามารถช่วยป้องกันตาจากการได้รับรังแส UV ที่อันตราย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

เรื่องใกล้ตัวที่ควรปรับเปลี่ยนหากอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในสมัยปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่จะมีวิถีชีวิตและมีการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันออกไป อาจมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น แต่บางคนอาจจะมีชีวิตที่ตกต่ำ ทำให้การใช้ชีวิตนั้นมักที่จะพบเจอกับปัญหาต่างๆได้ง่าย ซึ่งขอบอกเลยว่าการที่เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิตของเรานั้น

เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรานั้นมีความสุขและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยนี้มักที่จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต

จนทำให้ชีวิตนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมากๆ จนถึงอาจมีปัจจัยสำคัญหรือเรื่องใกล้ตัวที่มักจะพบเจอและทำอยู่บ่อยบ่อย จนทำให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้นกับการใช้ชีวิตได้นั่นเอง

แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าใครๆก็คงอยากที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นและอยากที่จะมีความสุขกับการใช้ชีวิต แต่ก็ไม่ต้องไปกังวลไป หากใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเลือกใกล้ตัวที่มักพบเจอและมักจะทำอยู่บ่อยบ่อยเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองที่ดียิ่งขึ้น

วันนี้เรา  เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว     ก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าเรื่องใกล้ตัวที่หลายหลายคนมักจะพบเจอกันอยู่บ่อยบ่อย จะทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต จะมีอะไรบ้างที่เราควรปรับเปลี่ยนหากเรายังมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น วันนี้เรามีคำตอบ

  • ความสัมพันธ์กับคนในสังคม

ปัญหานี้ถือเป็นปัญหาอันดับต้นต้นของการใช้ชีวิตของใครหลายหลายคนมากๆ เพราะคนส่วนใหญ่อาจจะมีความสัมพันธ์กับคนในสังคมที่แตกต่างกันออกไป ใครที่คิดว่าตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี อาจจะเป็นไปได้ว่าเรื่องใกล้ตัวที่ควรปรับเปลี่ยนเลยก็คือความสัมพันธ์กับคนในสังคม

ซึ่งเราควรที่จะมองโลกในแง่ดีไม่ควรมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป และการที่เราปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์กับคนในสังคม สิ่งนี้จะทำให้เรานั้นอยู่ร่วมคนในสังคมได้ง่ายและทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้

  • การเลิกเหล้า

เรามักจะเห็นได้ว่า ใครก็ตามที่มีความเครียดและรู้สึกเบื่อก็มักที่จะออกไปดื่มเหล้าดื่มแอลกอฮอล์กันอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและ ยังเป็นการทำร้ายสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย ซึ่งหากใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ตนเองมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ขอบอกไว้ว่าการที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองด้วยการเลิกดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์ จะทำให้เรานั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีแถมยังไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอีกด้วย

  • การเป็นจิตอาสา

รู้หรือไม่ว่าการที่เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นได้นั้น เราก็สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีที่จะทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตเลยก็คือ การที่เรารู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการทำจิตอาสา สิ่งนี้จะทำให้เรานั้นมีความสุขกับการใช้ชีวิต เพราะการเป็นผู้ให้จะทำให้เรารู้สึกดีและมีความสุข รับรองได้เลยว่าหากเราทำเป็นประจำจะทำให้เรานั้นอยากที่จะเป็นผู้ให้ และทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

แนะนำเครื่องดื่มที่ช่วยต้านความแก่ได้

เมื่อไหร่ ก็ตามที่เราอายุเริ่มมากขึ้น สุขภาพร่างกายหรือแม้แต่ส่วนต่างๆของร่างกายของเราย่อมเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นทั้งปัญหาสุขภาพร่างกายต่างๆที่อาจเกิดขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้า ความแก่ชราที่อาจเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้อาจทำให้หลายคนนั้นเกิดเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต

จึงมักที่จะมองหาวิธีที่จะช่วยต้านความชราหรือต้านความแก่ เพื่อทำให้ผิวของตนเองนั้นดูดีและช่วยเพิ่มความมั่นใจได้

ซึ่งขอบอกเลยว่าในสมัยนี้มีวิธีมากมายหลากหลายวิธีที่จะช่วยทำให้คุณนั้นมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง หน้าร้ริ้วรอย หรือไม่ดูแก่กว่าไว ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่สามารถต้านความชราได้ การออกกำลังกายเป็นประจำ

หรือแม้แต่การเลือกเครื่องดื่มก็มีส่วนช่วยในการต้านความแก่ให้กับเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ   เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้อย่างพี่จ๋าเพิ่มความมั่นใจและทำให้ตนเองดูดี

วันนี้เราก็จะมาแนะนำเครื่องดื่มที่รับรองได้เลยว่าหากเราดื่มเป็นประจำจะช่วยต้านความแก่ความชรา ช่วยให้ผิวพรรณของเราดูอ่อนกว่าไวไม่ดูแก่และมีใบหน้าที่ไร้ริ้วรอย จะมีเครื่องหรืออะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

  • นมถั่วเหลือง แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในเครื่องดื่ม

ที่สามารถหาดื่มกันได้ง่ายง่ายแถมยังเป็นเมนูโปรดของใครหลายหลายคนอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่านอกจากนมถั่วเหลืองจะสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราได้แล้ว ยังสามารถช่วยต้านความแก่ทำให้ผิวหน้าของเราดูอ่อนกว่าวัยได้ นมถั่วเหลืองมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ สามารถทำให้สุขภาพผิวของเราดูเต่งตึงสดใสและสุขภาพดีได้ รับรองได้เลยว่าหากเราดื่มเป็นประจำเนื่องจากจะดีต่อสุขภาพผิวแล้วยังดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย

  • น้ำแครอท เป็นอีกหนึ่งในเครื่องดื่มที่สาวสาวส่วนใหญ่ไม่ควรพลาด

เพราะเครื่องดื่มชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่อยากดูแลบำรุงสุขภาพผิวให้เปล่งปลั่งสุขภาพดีและอ่อนกว่าวัย เพราะในน้ำแครอทนั้นจะอุดมไปด้วยสารลูทอีโอลิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านการอักเสบ ทำให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งและสุขภาพดีได้ หากเราดื่มเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะยิ่งดีต่อสุขภาพผิวทำให้เรานั้นไม่รู้แกได้ง่ายอีกด้วย

  • น้ำบีสรูท เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ไม่ควรพลาด

เพราะหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่าเครื่องดื่มชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะอุดมไปด้วยสารที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนเลือดได้ เพราะการที่ร่างกายของเรา มีระบบการไหลเวียนเลือดที่ดีก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพผิวของเราได้เช่นกัน ทำให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่งสุขภาพดี แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ค่อนข้างสูงหากใครที่ต้องการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายการดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นประจำจะช่วยได้อย่างแน่นอน

3 ท่าพิลาทิสช่วยลดอาการปวดหลัง

สมัยปัจจุบันนี้การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาเป็นประจำนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีที่เราควรให้ความสำคัญเพราะนอกจากการเลือกรับประทานอาหารจะดีต่อสุขภาพร่างกาย การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่สุขภาพร่างกายของเราได้

เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ทุ่มเทกับการทำงานเยอะมากๆจนปล่อยละเลยการดูแลสุขภาพร่างกายซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่คนส่วนใหญ่มักที่จะพบเจอกันอยู่บ่อยๆนั่นก็คืออาการปวดหลัง

ซึ่งอาการนี้ถือเป็นอาการที่พบเจอได้บ่อยและคนส่วนใหญ่มักที่ จะมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ จนส่งผลกระทบ และมีอาการที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งรู้หรือไม่ว่านอกจากการรับประทานยายังมีกีฬาบางประเภทโดยเฉพาะกีฬาพิลาทีสถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมกีฬาที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลังของเราได้เป็นอย่างดี

เพราะกีฬาประเภทนี้ถือเป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่นอกจากจะช่วยบรรเทาความเครียดช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้แล้วยังมีประโยชน์ที่สามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นสำหรับใครที่มีอาการปวดหลังอยู่บ่อยๆ

วันนี้เราก็จะมาแนะนำท่าออกกำลังพิลาศทีถที่รับรองได้เลยว่าหากเล่นเป็นประจำนอกจากจะช่วยปรับสัดส่วนร่างกายของเรายังสามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้ ไปดูกันเลย

ท่าสะพาน ท่านี้ถือเป็นท่าที่พื้นฐานสำหรับการเล่นพิลาทิสเพราะเป็นท่าที่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันดีซึ่งหลวงหรือไม่ว่าการที่เราเล่นกีฬาหรือออกกำลังด้วยท่านนี้นอกจากจะช่วยยืดหรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อของเราได้เป็นอย่างดีแล้วยังสามารถช่วยบรรเทาอาการ เกร็งหรืออาการปวดหลังให้ลดลงได้อีกด้วย

ท่า Thigh Stretch ท่าออกกำลังกายพิลาทิสทท่านี้ถือเป็นผ้าที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลังส่วนกลางได้เป็นอย่างดี เพราะจะเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบของ การเน้นการใช้กล้ามเนื้อบริเวณรอบๆร่างกาย จึงมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณบางส่วนนั้นมีความแข็งแรงและช่วยลดอาการตึงของกล้ามเนื้อบริเวณหลังและเป็นอย่างดีนั่นเอง

ท่า Pelvic Curl ท่านี้ จะเป็นหาที่ใกล้คล้ายกับท่าสะพาน แต่จะมีรูปแบบในการทำที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ซึ่งการออกกำลังกายด้วยท่านี้จะไม่เพียงแต่ช่วย เพิ่มความคล่องตัวให้กับกระดูกของเราแต่ยังสามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ดีและแข็งแรงแถมยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังของเรานั้น

ลดอาการเกร็งและช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี รับรองได้เลยว่าหากใครที่มีอาการปวดหลังหรือนั่งทำงานนานจนเกินไปการออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬาพิรัชต์ทิศเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายยังช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดี

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังตัดเสียงรบกวน

3 อาหารเพื่อสุขภาพที่ไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด

รู้หรือไม่ว่า เราอยู่ในชยุคสมัยที่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแบสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหาร ซึ่งหลายคนมองว่า การเลือกรับประทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกายนั้น จะยิ่งทำให้ร่างกายของเราแรง โดยเฉพาะอาหารที่ปลอดสารพิษ อาหารที่ได้จากธรรมชาติ หรือแม้แต่อาหารเพื่อสุขภาพ

แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารเพื่อสุขภาพ ที่หลาย ๆ คนมองว่ายิ่งทานยิ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายนั้น แท้ที่จริงแล้วอาจไม่ได้ดีต่อร่างกายของเรา  www.hoiana-exclusivex.com   เสมอไป

เพราะยิ่งเราทานมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบ หรือส่งผลเสียต่อร่างกายของเราได้เช่นกัน ฉะนั้น อยากให้ทุกคนมองว่า อาหารเพื่อสุขภาพก็ไม่ได้ดีต่อร่างกายของเราเสมอไป หากต้องการสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรง ควรที่จะหมั่นออกกำลังกาย และเลือกทานอาหารที่เหมาะสม

เพียงแค่นี้เราก็จะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่สงสัยว่า อาหารเพื่อสุขภาพนั้นจะไม่ดีต่อร่างกายอย่างไร วันนี้เราก็จะพาไปดูกันว่า อาหารเพื่อสุขภาพที่หลายคนมองว่ามีประโยชน์ แท้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไรไปดูกันเลย 

เครื่องดื่มเกลือแร่ แน่นอนว่า เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่หลายคนอาจจะชอบดื่ม หรือเคยดื่มกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบออกกำลังกาย หรือคนที่ร่างกายไม่ค่อยมีแรง ก็เลือกที่จะดื่มเกลือแร่เพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้ว่าเกลือแร่จะสามารถทดแทนน้ำที่ร่างกายของเราสูญเสียไป แต่ในเกลือแร่นั้นล้วนแต่อุดมไปด้วยน้ำตาล เกลือ หรือแม้แต่สารแต่งสีที่เกินขนาด ยิ่งเราดื่มมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเรา 

ซีเรียลธรรมชาติ หลายคนมองว่า ซีเรียลเป็นอาหารว่าง หรืออาหารเช้าที่มีผระโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะทานในเวลาที่เร่วรีบได้แล้ว ยังมีสารอาหารมากมายที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า ซีเรียล หรือธัญพืชธรรมชาติที่เราทานกันอยู่นั้น ยิ่งเราทานมาก ๆ ยิ่งไม่ดีต่อร่างกาย เพราะถึงแม้จะให้โปรตีนแก่ร่างกายที่สูงมาก ๆ แต่ก็ยังอุดมไปด้วยน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง หากเราทานเป็นประจำ หรือทานบ่อยมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราได้นั่นเอง 

ชาเขียว ถึงแม้ว่าชาเขียวพร้อมดื่ม จะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ล้วนแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่า ในบางครั้งเครื่องดื่มเหล่านี้หากเราดื่มมากเกินไป ก็อาจจะทำร้ายร่างกายของเราได้ เพราะแน่นอนว่าจะมีความหวานหรือมีน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก ถึงแม่ว่าบางยี่ห้อจะไม่ใส่น้ำตาลเยอะ แต่หากเราดื่มบ่อย ๆ ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน 

3 อาการร่างกายขาดสารอาหารแมกนีเซียม

อย่างที่เราทราบกันดีว่า การมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรงนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอหรือเกิดการขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไปจะทำให้ร่างกายของเรานั้นส่งผลกระทบ หรืออาจเกิดอาการต่างๆขึ้นได้

ซึ่งแน่นอนว่า สารอาหารในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตามมีความสำคัญและจำเป็นต่อสุขภาพร่างกายของเราทั้งนั้นเพราะนอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายของเราได้เป็นอย่างดีแล้วยังช่วยให้ร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอและลดภาวะร่างกายขาดสารอาหารได้อีกด้วย

ดังนั้น การที่เรารับประทานอาหารให้ครบทั้งห้าหมู่ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม ยิ่งถ้าใครอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดี ก็ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางประเภทไป ซึ่ง  เครื่องช่วยฟัง    หนึ่งในนั้นก็คือแมกนีเซียม ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าหากร่างกายของเราขาดสารอาหารประเภทนี้ไป อาจทำให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบและอาจเกิดอาการต่างๆขึ้นได้

ฉะนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าร่างกายของเราเริ่มขาดสารอาหารประเภทแมกนีเซียม ไปดูกันเลย

  • เกิดอาการชัก

รู้หรือไม่ว่าหากร่างกายของเราเริ่มขาดสารอาหารประเภทแมกนีเซียมไป รู้หรือไม่ว่าหากร่างกายของเราเริ่มขาดสารอาหารประเภทแมกนีเซียมไป ร่างกายของเราก็จะเกิดอาการชักได้ง่ายกว่าปกติหรือบางครั้งกล้ามเนื้ออาจกระตุกเป็นบางครั้ง ซึ่งนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในอาการที่อาจบ่งบอกได้ว่าร่างกายของเรานั้นเริ่มหาสารอาหารประเภทแมกนีเซียมไปนั่นเอง

  • สุขภาพจิตย่ำแย่

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ภาวะสุขภาพจิตเป็นหนึ่งในภาวะที่เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเราขาดสารอาหารแมกนีเซียมไป เพราะเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเรามีแมกนีเซียมที่ต่ำ จะยิ่งทำให้เรานั้น เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีอาการวิตกกังวล หวาดระแวง รวมไปจนถึงการมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นง่ายๆอีกด้วย

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ

การที่ร่างกายของเรามีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ถือเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาการที่เราไม่ควรมองข้าม ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราเริ่มขาดแมกนีเซียม จะทำให้ร่างกายของเรานั้นเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ทั่วท้อง มีอาการหน้ามืดจนอาจเป็นลมได้ซึ่งอาการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการที่อาจเกิดขึ้นและบ่งบอกได้ถึงว่าร่างกายของเราเริ่มขาดแมกนีเซียมนั่นเอง

ฮีทสโตรกโรคร้ายที่เราควรระวังในช่วงหน้าร้อน

   หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าสมัยนี้โลกของเรา กำลังเดินหน้าเข้าสู่ฤดูร้อนกันอย่างเต็มตัวซึ่งอาจจะทำให้สภาพอากาศมีอุณหภูมิที่ สูงมากยิ่งขึ้น อาจจะทำให้การใช้ชีวิตของคนเรานั้นเปลี่ยนไปจากเดิมเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน

ซึ่งจะทำให้ในร้ายคนนั้นไม่อยากที่จะออกไปข้างนอกหรือออกไปทำงาน แต่การใช้ชีวิตของเราจะต้องดำเนินต่อไปทำให้บางคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงการออกข้างนอกหรือการออกไปเจอแสงแดดที่ร้อนจัดได้

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าในช่วงหน้าร้อนนั้นหนึ่งในโลกที่มักพบเจอและเกิดขึ้นได้บ่อยนั่นก็คือโรคฮีทสโตรก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโลกที่มีความอันตรายในช่วงหน้าร้อนเป็นอย่างมาก

เนื่องจากมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้ ฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีทสโตรกได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายๆคนมักที่จะพบเจอกับโรคฮิตสโตรกกันอยู่บ่อยๆ

วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีง่ายๆที่จะช่วยในการป้องกันการเกิดโรคฮีทสโตรกในช่วงหน้าร้อนได้ จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

  • การสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

เนื่องจากมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดจึงอาจทำให้การสวมใส่เสื้อผ้ามีความสำคัญที่เราควรจะเลือกให้เหมาะสม และเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคในช่วงหน้าร้อนทางที่ดีควรจะเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีเสื้อผ้าที่โปร่งใส และไม่ดูดซับความร้อน เพราะหากเราสวมใส่เสื้อผ้าที่อาจดูดซับความร้อนจากแสงแดดจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายได้นั่นเอง

  • การรักษาอุณหภูมิภายในร่างกาย

การที่เราจะรักษาอุณหภูมิภายในร่างกายของเราให้คงที่ได้นั้นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการดื่มน้ำ ยิ่งอากาศร้อนๆหากเราดื่มน้ำเยอะๆหรือจิบน้ำทีละน้อยๆจะสามารถช่วยคงความสมดุลของอุณหภูมิภายในร่างกายของเราได้แถมยังช่วยทำให้ร่างกายของเรา ไม่ร้อนและช่วยลดการเกิดโรคในช่วงหน้าร้อนได้

  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด

เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ หากเราไปยืนอยู่กลางแดดหรือใช้ชีวิตหรือกลางแดดอาจจะทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคฮีทสโตรกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นเพื่อลดโอกาสเสี่ยงทางที่ดีเราควรที่จะหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดนานจนเกินไปหรือหากใครที่ต้องดำเนินชีวิต หรือทำงานกลางแดดคนที่จะเดินเข้าบ่อยๆหรืออาจจะเป็นการดื่มน้ำเพื่อทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายของเราไม่ร้อนจัดอาจส่งผลกระทบได้

 

สนับสนุนโดย    หูตึงรักษา

ประโยชน์ที่ได้จากการออกกำลังกายในทุกๆวัน

การออกกำลังกายถือได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะการออกกำลังกายในทุกวันเราทราบดีอยู่แล้วว่ามันจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง โดยเราจะมีหุ่นเรียว รูปร่างดีขึ้น แต่ถ้าเราพยายามออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมงทุกๆวัน คุณทราบหรือไม่ว่ามันจะเกิดผลดีอะไรบ้าง

วันนี้เราจะมาบอกถึงประโยชน์ที่ได้จากการออกกำลังกายในทุกๆวัน โดยมันจะมีประโยชน์อะไรบ้าง หากเราออกกำลังกายเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงต่อวันเท่านั้น

การออกกำลังกายมีข้อดีมากมายต่อสุขภาพทั้งทางกายและจิตใจ ดังนี้

1.คุณจะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น  คุณจะมีอารมณ์ดีขึ้นคือพูดง่ายๆว่าจะมีความสุขมากขึ้น จะมองโลกได้บวกมากขึ้น เนื่องจากว่าเมื่อคุณได้ออกกำลังกายก็จะมีสารอินโดฟินออกมาสารนี้จะส่งผลทำให้คุณนั้นอารมณ์ดีขึ้น มีความสุขมากยิ่งขึ้น มันจะเข้าไปกระตุ้นความสุขให้แก่คุณ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้ที่ชอบออกกำลังกายพวกเขามักจะยิ้มแย้มและมีความสุข นั่นคือความสุขที่พวกเขาได้รับจากการออกกำลังกายนี่แหละ

2.น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นยาก  นอกจากน้ำหนักจะลงแล้ว ผู้ที่ออกกำลังกายบ่อยนี้น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นยากตามไปด้วย จะเห็นได้ว่าเมื่อเราออกกำลังกายแล้วนั้น เราก็ได้ทำการเผาผลาญไขมันที่อยู่ในร่างกายหรือไขมันที่สะสมของเราออกไป ดังนั้นมันจะช่วยให้ก้ามเนื้อของเรานั้นแข็งแรงขึ้นได้ดีอีกด้วย

3.เสริมสร้างระบบหัวใจและหลอดเลือด  การออกกำลังกายช่วยปรับปรุงระบบหัวใจและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

4.ควบคุมน้ำหนัก  การออกกำลังกายช่วยในกระบวนการลดน้ำหนักหรือรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม

5.เสริมสร้างกล้ามเนื้อ  การฝึกฝนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, เพิ่มประสิทธิภาพของระบบกล้ามเนื้อและสามารถช่วยลดความเมื่อยล้าในชีวิตประจำวัน

6.พัฒนาระบบกระดูก  การฝึกฝนช่วยเสริมกระดูกและลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูก เช่น โรคกระดูกพรุน

7.ปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน  การออกกำลังกายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อต้านโรคและการติดเชื้อได้ดีขึ้น

8.ปรับปรุงการนอน  การออกกำลังกายช่วยลดอาการนอนไม่หลับและปรับปรุงคุณภาพของการนอน

9.ลดความเครียดและซึมเศร้า  การออกกำลังกายปลดปล่อยสารเคมีในสมองที่ช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างความสุข ลดภาวะซึมเศร้า

10.พัฒนาการลมหายใจ  การออกกำลังกายช่วยพัฒนาการลมหายใจ ทำให้ร่างกายใช้ประโยชน์จากออกซิเจนได้ดีขึ้น

11.เพิ่มความยืดหยุ่น  การฝึกฝนท่าทางที่ยืดหยุ่นช่วยลดความตึงเครียดในกล้ามเนื้อและส่งผลให้ร่างกายมีความยืดหยุ่น

การออกกำลังกายควรทำอย่างสม่ำเสมอและเลือกกิจกรรมที่คุณทำใจชอบ  เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่    เพื่อให้มีประสิทธิภาพและสนุกสนานมากขึ้น

จัดการกับปัญหาการขาดแคลนพยาบาลที่เลวร้ายลงด้วยเทคโนโลยี

การฝึกอบรม และการเปลี่ยนแปลง ความต้องการพยาบาลในเอเชียจะเพิ่มขึ้นตามอายุของประชากรเท่านั้น เราจะสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถของพยาบาลในบทบาทของตนได้มากขึ้นได้อย่างไร Tim Morris รองประธานฝ่าย Go-to-Market, EMEALAAP, Elsevier แบ่งปันความคิดของเขา การขาดแคลนพยาบาลเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน

โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ประชากรสูงวัยที่ต้องการมากขึ้น และการดูแลที่ซับซ้อนมากขึ้น พยาบาลอาวุโสที่เข้าสู่วัยเกษียณจำนวนมาก และมีพยาบาลลาออกมากขึ้นเนื่องจากความเหนื่อยหน่าย

ในที่สุดวิกฤตที่คุกรุ่นอยู่ก็มาถึงจุดวิกฤตในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกพยาบาลอันดับต้นๆ ของโลก

ประมาณ 40% ของพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนลาออกในช่วงหนึ่งปีครึ่งเนื่องจากการแพร่ระบาด อัตราการลาออกของพยาบาลในโรงพยาบาลของรัฐในสิงคโปร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีในปี 2564 โดยมีพยาบาลชาวต่างชาติเกือบ 15% ลาออก ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับอัตราการออกจากงาน 7% ในปี 2563

Tim Morris รองประธานฝ่าย Go-to-Market, EMEALAAP, Elsevier “จำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นหมายความว่ามีการพึ่งพาพยาบาลมากขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในชุมชนนานขึ้นยังเพิ่มความต้องการการพยาบาลในชุมชนอีกด้วย

หากคุณจับคู่สิ่งนั้นกับจำนวนแพทย์ที่ลดลงต่อผู้ป่วย นั่นหมายความว่าพยาบาลจะต้องทำงานมากขึ้นเพื่อสนับสนุนแพทย์ในแง่ของการปฏิบัติของพวกเขาไปพร้อมๆ กับการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยไปด้วย” ทิม มอร์ริส รองประธานฝ่าย Go-to-Market, EMEALAAP กล่าว เอลส์เวียร์

การออกแบบงานพยาบาลใหม่และการมอบหมายงาน: ใช้งานได้หรือไม่ แม้ว่าบางประเทศหันมาใช้ค่าจ้างหรือสวัสดิการที่ดีขึ้นในการรับสมัครพยาบาล แต่ความท้าทายก็คือโลกจะต้องการพยาบาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โรงพยาบาลและองค์กรด้านการดูแลสุขภาพต้องการกลยุทธ์แบบองค์รวมพร้อมวิธีใหม่ๆ ในการดึงดูดผู้คนให้มาทำงานพยาบาลมากขึ้น

และเพื่อรักษาพยาบาลที่มีอยู่ให้ดีขึ้น พยาบาลที่ออกจากอุตสาหกรรมมักอ้างว่ามีภาระงานสูงและชั่วโมงทำงานที่ยาวนานเป็นเหตุผลในการลาออก เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โรงพยาบาลบางแห่งจึงหันมาออกแบบงานใหม่และการมอบหมายงานบางอย่าง เช่น การให้อาหารและการทำความสะอาด เพื่อลดภาระงานพยาบาล “การอนุญาตให้พยาบาลมีอิสระและมีขอบเขตการปฏิบัติที่เข้มแข็งถือเป็นสิ่งสำคัญ

หนึ่ง สนับสนุนการจัดการผู้ป่วย และสอง ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพของพยาบาลและคุณค่าที่พยาบาลรู้สึกเกี่ยวกับบทบาทของพวกเขา เราสามารถปรับปรุงการรักษาพยาบาลได้หากพวกเขาสนุกกับงานและสามารถเชื่อมโยงการดูแลกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาได้” นายมอร์ริสกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ช่วยดูแลในปัจจุบันก้าวหน้าไปเป็นพยาบาล ก็อาจนำไปสู่วงจรความไม่สมดุลระหว่างจำนวนพยาบาลและผู้ดูแลได้ เขาชี้ให้เห็น “ดังนั้นการมีบทบาทที่ชัดเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่อาจดำรงตำแหน่งผู้ช่วยดูแล ผู้ที่ให้การจัดการการดูแลผู้ป่วยขั้นสูง และพยาบาลอาวุโสที่อาจจัดการกลุ่มผู้ป่วยผ่านการประเมินและการจำหน่าย

เราต้องการการฝึกอบรมที่เหมาะสมสำหรับทุกคน และอาจเป็นเส้นทางในการย้ายจากพื้นที่หนึ่งของการดูแลไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง การมีกฎระเบียบที่ดีจะทำให้ทุกคนเข้าใจคำจำกัดความและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันของพยาบาลเหล่านี้”

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย   ถ่านเครื่องช่วยฟัง

เช็คสัญญาณเตือนการเกิดโรควิตกกังวล

โรควิตกกังวล เรียได้ว่าเป็นหนึ่งในโรคทางสุขภาพจิตที่หลาย ๆ คนจะต้องพบเจอกันอยู่เป็นประจำ เนื่องด้วยปัญหาการใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความเครียด ความกดดันต่าง ๆ มากมาย จึงทำให้บางคนนั้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้กันค่อนข้างสูง อีกทั้งยังอาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้หลาย ๆ คนเกิดความสะเอนใจ

การเกิดโรควิตกกังวล จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้นั่นเอง ซึ่งรู้หรือไม่ว่าโรคนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยจนทำให้หลาย ๆ คนเกิดความเคยชิน แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นหนึ่งในโรคทางจิตใจที่มีความอันตราย และรุนแรงเป็นอย่างมาก

ถึงแม้จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาต แต่เราก็ควรที่จะให้ความสำคัญเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเรานั่นเอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลาย ๆ คนในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวลทางจิตใจกันอยู่อย่างแน่นอน

ซึ่งวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่า สัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ถึงอาการดังกล่าว จะมีอะไรบ้าง เผื่อว่าเราจะรู้ตัวเร็ว และป้องกันได้อย่างท่วงที    เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก   และไม่ให้อาการนั้นแย่ลงไปกว่าเดิม  ไปดูกันเลย 

  • มีอาการใจลอย

เนื่องจากคนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ โดยทั่วไปแล้วมักที่จะมีอาการใจลอยอยู่ตลอดเวลา บางครั้งอาจจะรู้สึกตกใจได้ง่ายไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม จะรู้สึกตื่นตูม หรือตื่นตระหนัก กลัว จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้นั่นเอง ดังนั้น หากใครที่อยากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวลหรือไม่ การสังเกตอาการเบื้องต้นของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถป้องกันอาการไม่ให้รุนแรงขึ้นได้ 

  • ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกว่า เราไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม หรือบางครั้งเราอาจจะรู้สึกหงุดหงิด ไม่มีสมาธิอยู่กับเนื้อกับตัว ซึ่งอาจการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการที่รุนแรงอต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก หากใครที่รู้ตัวว่าตนเองมีพฤติกรรมดังกล่าวควรที่จะรู้ได้แล้วว่าตนเองมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวล 

  • หัวใจเต้นเร็ว

แน่นอนว่าอาการนี้ถือเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า คุณกำลังตกอยู่ในภาวะวิตกกังวลอย่างแน่นอน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหัวใจเต้นเร็วเกินไป หายในถี่มากขึ้น ใจสั่นเป็นระยะ ๆ ร่างกายกระสับกระส่าย หรือในบางครั้งอาจมีอาการมือเท้าเย็น เหงื่อออก

ถึงแม้ว่าจะเป็นอาการที่หลาย ๆ คนมองว่าเกิดขึ้นแต่ไม่ได้รุนแรง แต่อยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่า ไม่ว่าอาการไหนจะเกิดขึ้นกับร่างกายของเราก็ตาม หากเราปล่อยไว้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ยังอาจเพิ่มความรุนแรงของอาการให้เพิ่มมากขึ้นได้นั่นเอง